Skip to content
โทร: 062-959-6665
LINE: @digitalkids
facebook
instagram
youtube
DIGITAL KIDS
ศูนย์ฝึกทักษะและพัฒนาความรู้สำหรับเด็ก
หน้าแรก
สินค้าทั้งหมด
ของเล่นเสริมสร้างทักษะ
ปากกาเจลและสมุดระบายสี
หุ่นยนต์ JIMU
UKIT ชุดตัวต่อหุ่นยนต์เสริมทักษะ
ชุดทดลองวิทยาศาสตร์
ปากกา 3D
ปากกา 3D (PCL)
เส้นสีปากกา 3D (PCL)
ปากกา 3D (PLA)
เส้นสีปากกา 3D (PLA)
แม่แบบวาดรูปปากกา 3D
คอร์สเรียน
คอร์สหุ่นยนต์ชุด UKIT
คอร์ส Drawing For Kids
คอร์ส Jimu Robot – Basic
คอร์สปั้นโมเดล 3D Printing
คอร์สเรียน STEAM
ดาวน์โหลด Course Outline
โปรโมชั่น
สาระน่ารู้
ช่วยเหลือ
วิธีจองคอร์สเรียน
ยืนยันการชำระเงิน
ติดต่อเรา
บัญชีของฉัน
0
ตะกร้าสินค้า
Search for:
Search
29284
ทำไมต้องดอกป๊อปปี้ ในวันทหารผ่านศึกกันนะ
Home
ทำไมต้องดอกป๊อปปี้ ในวันทหารผ่านศึกกันนะ
- knowledge -
🪖 ทำไมต้องดอกป๊อปปี้ ในวันทหารผ่านศึกกันนะ 🫡
หลายคนอาจจะสงสัยนะคะว่า เมื่อถึงช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ จะมีอยู่หนึ่งวันที่เห็นคนออกมาขายดอกไม้สีแดงหน้าตาที่ไม่คุ้นเคยตามสถานที่ต่างๆ บางคนก็แต่งชุดทหารมาด้วย ดอกไม้นี้คืออะไร มีที่มายังไง และเกี่ยวข้องอย่างไรกับทหาร พี่ดิจิจะพาไปหาคำตอบกันค่ะ
จุดเริ่มต้นของการใช้ดอกป๊อปปี้เป็นสัญลักษณ์แทนวันทหารผ่านศึกนั้น คาดว่ามาจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ในสมรภูมิพลานเดอร์ส (Vlaanderen) ที่ครอบคลุมบางส่วนของประเทศเบลเยียม ฝรั่งเศส และเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นสงครามระหว่างสัมพันธมิตรและเยอรมนี สมรภูมิดังกล่าวมีทหารฝ่ายพันธมิตรบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก แต่กลับเกิดปรากฏการณ์ประหลาดขึ้น เมื่อมีดอกป๊อปบี้บานขึ้นในบริเวณที่เป็นหลุมฝังศพของทหารเหล่านั้นนั้นเต็มไปหมด เกิดเป็นภาพของทุ่งดอกไม้สีแดงอันงดงามตรงข้ามกับภาพของความโหดร้ายของสงครามและความตาย
สงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1918 (พ.ศ. 2461) ซึ่งเป็นวันลงนามสงบศึกระหว่างฝ่ายสัมพันธมิตรกับเยอรมนี จอมพลดักลาส เฮก เอิร์ลเฮกที่ 1 (Douglas Haig, 1st Earl Haig) ผู้บัญชาการรบกองทัพอังกฤษในครั้งนั้น จึงได้นำเอาดอกป๊อปปี้มาใช้เป็นเครื่องเตือนใจถึง วีรกรรม ความกล้าหาญ ชีวิตและเลือดสีแดงของเหล่าทหารที่ได้เสียสละเพื่อประเทศชาติ อีกทั้งยังก่อตั้ง "สันนิบาตสงเคราะห์ทหารผ่านศึก" ขึ้นในอังกฤษ เพื่อช่วยเหลือเหล่าทหารและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม โดยกำหนดให้วันที่ 11 พฤจิกายน นี้เป็น “วันทหารผ่านศึก” ในประเทศอังกฤษ
จากนั้นในปีถัดมา ก็เริ่มมีการประดิษฐ์ดอกป๊อปปี้ออกมาจำหน่ายในวันนี้ เพื่อนำเงินรายได้ไปเป็นทุนช่วยเหลือทหารผ่านศึก จึงเรียกวันนี้อีกอย่างว่า “วันป๊อปปี้” (POPPY DAY) นั่นเองค่ะ และเป็นธรรมเนียมมาจุดถึงปัจจุบัน ซึ่งนอกจากจำหน่ายดอกป๊อปปี้แล้ว ยังมีขบวนพาเรด และพิธีต่างๆ เช่น การไว้อาลัยด้วยความเงียบเป็นเวลา 2 นาที เมื่อหอนาฬิกาบิ๊กเบน (Big Ben) ตีระฆังเมื่อเวลา 11 นาฬิกา เป็นต้น
(เกร็ดเพิ่มเติม: ในอเมริกาจะเรียกวันทหารผ่านศึกว่า Veterans Day ซึ่งเปลี่ยนชื่อมาจาก Armistice Day หรือ “วันสงบศึก” เมื่อปี ค.ศ. 1954 และในอังกฤษรวมถึงประเทศในเครือจักรภพจะเรียกวันนี้ว่า Remembrance Day หรือ “วันรำลึก”)
ดอกป๊อปปี้เองก็มีหลายสีขึ้นอยู่กับพันธุ์ ซึ่งที่ใช้เป็นสัญลักษณ์ของเหล่าทหารผ่านศึกคือ ดอกป๊อปปี้พันธุ์ Papaver rhoeas ซึ่งมีสีแดงสดค่ะ แต่เดิมทีตัวดอกป๊อปปี้นั้นถูกใช้เป็นสัญลักษณ์มาของ การหลับใหล ความสงบ และความตาย มาอย่างยาวนานแล้ว โดยที่มาของการหลับใหลมาจาก ฝิ่นซึ่งเป็นผลิตผลของป๊อปปี้ที่มีฤทธิ์เป็นยากดประสาท ส่วนความตายมีที่มาจากสีแดงของดอกป๊อปปี้แดง ในเทพนิยายของกรีกและโรมัน ดอกป๊อปปี้ยังถูกใช้เป็นสิ่งบูชาต่อผู้วายชนม์อีกด้วย
ส่วนความสัมพันธ์ของดอกป๊อปปี้กับวันทหารผ่านศึกในไทยนั้น เริ่มขึ้นจากในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ประเทศไทยต้องพบกับภาวะสงคราม จึงจำเป็นต้องส่งทหารเข้าร่วมสงครามเป็นจำนวนมาก ทำให้มีทหารที่ได้รับการปลดระวางจากสงครามมากตามมาด้วย ซึ่งทหารเหล่านั้นเมื่อปลดระวาง ก็ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจยามสงคราม ทหารบางนายก็ได้รับบาดเจ็บ ทุพพลภาพสูญเสียอวัยวะสำคัญจนยากที่จะประกอบอาชีพได้ รัฐบาลในสมัยนั้นของพลเรือตรี ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ จึงได้จัดตั้งมูลนิธิองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ผ่านการประกาศ พ.ร.บ. เพื่อช่วยเหลือและให้การสงเคราะห์แก่ทหาร ที่กลับจากปฏิบัติการรบและช่วยเหลือครอบครัวทหารที่เสียชีวิตในการรบด้วย ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2491 จึงได้ถือให้วันดังกล่าวเป็น “วันทหารผ่านศึก” ประจำปี เพื่อรำลึกถึงความเสียสละของเหล่าทหารกล้าทั้งหลายนั่นเองค่ะ
ต่อมาในเดือนสิงหาคม พ.ศ.2511 ท่านผู้หญิง จงกล กิตติขจร ประธานมูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึกในขณะนั้น ต้องการจะดำเนินการหาทุนมาช่วยเหลือทหารและครอบครัวทหารผ่านศึกเพิ่มเติม จึงได้ริเริ่มการจัดทำดอกป๊อปปี้ออกจำหน่ายเพื่อหาหารายได้เข้ามูลนิธิ และในปีถัดมา ดอกป๊อปปี้ก็ได้ถูกจำหน่ายกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ดอกไม้ชนิดนี้จึงถูกเรียกว่าเป็น “ดอกไม้ที่ระลึกวันทหารผ่านศึก”
โดยในบ้านเรานอกจากจะจำหน่ายดอกป๊อปปี้และของที่ระลึกแล้ว ก็ยังมีกิจกรรมอื่นที่ทำให้วันนี้อีก เช่น จัดงานรำลึกทั่วประเทศ จัดนิทรรศการเผยแพร่วีรกรรมของเหล่าทหารกล้า และวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานที่มีความเกี่ยวข้องกับทหารโดยตรง เพราะเป็นที่จารึกชื่อของทหารกล้าและเหล่าวีรชน จากสงครามในอดีตทั้งหลายทั้ง สงครามข้อพิพาทแย่งดินแดนระหว่างไทยและฝรั่งเศส สงครามมหาเอเซียบูรพา(สงครามโลกครั้งที่ 2) และสงครามเกาหลี โดยการวางพวงมาลา จะวางโดยบุคคลสำคัญของประเทศเพื่อคารวะและเทิดทูนดวงวิญญาณเหล่านั้นที่ทำหน้าที่จนถึงวินาทีสุดท้าย และเพื่อเตือนใจคนรุ่นหลังถึงความเสียสละของพวกเขาที่ทำให้ประเทศเราดำรงเอกราชได้ตลอดจนถึงปัจจุบัน
อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทำพิธีเปิด เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2485 โดยจอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น รายชื่อของผู้เสียชีวิตและผู้สละชีพเพื่อชาติจากสงครามต่างๆ ตั้งแต่ พ.ศ.2483-2497 รวมทั้งสิ้น 801 นาย จะถูกจารึกไว้ที่แผ่นทองแดงบริเวณใต้รูปปั้นของอนุสาวรีย์
เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจนะคะ ที่วันสำคัญอย่าง “วันทหารผ่านศึก” นั้น กลับไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าที่ควรเลย ถ้าเทียบกับวันอื่นๆ ทั้งที่พวกเขาต้องสละชีวิต หรือบางคนก็กลับมาในสภาพที่น่าสงสารมาก แม้กระทั่งในปัจจุบันก็ยังมีทหารผ่านศึกที่ยังต้องการความช่วยเหลืออยู่ไม่น้อยเช่นกัน หากเป็นไปได้อาจจะช่วยกันสนับสนุนดอกป๊อปปี้ก็ได้ค่ะ หรืออย่างน้อยที่สุด ก็ระลึกถึงว่า ในขณะที่พวกเราอยู่อย่างสบายก็ยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่ต้องเสี่ยงชีวิตยืนอยู่บนความเป็นความตายเพื่อคนในชาติทุกคนค่ะ
Tag: #สาระเลี้ยงลูก #เลี้ยงลูกอย่างไร #digitalkids #ของเล่นฝึกทักษะ #ของเล่นเด็ก #วันทหารผ่านศึก